"เรามีความชำนาญเฉพาะทางด้านการนวดจัดกระดูก (Chiropractic) , เชี่ยวชาญเรื่องกระดูก เส้นประสาท เส้นเอ็น ข้อต่อ และ กล้ามเนื้อ บรรเทาอาการต่างๆ ที่เกิดจากกระดูกทับเส้นประสาท แนวกระดูกผิดรูป อยู่ในตำแหน่งที่ไม่สมดุล ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวด ตามที่ต่างๆ ของร่างกาย การนวดจัดกระดูกเป็นการนวดเพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ไม่ถูกกดทับ ซึ่งเป็นนวดที่บรรเทาอาการปวดที่ปลอดภัย โดยไม่ต้องฉีดยา ไม่ต้องทานยา และแก้ปัญหาอาการปวดได้ตรงจุด ตามแบบฉบับของประเทศจีนที่สั่งสมเทคนิคการนวดจัดกระดูกถ่ายทอดตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน

นอนไม่หลับ (Insomnia)

เป็นโรคความผิดปกติในการนอน นอนยาก ไม่ง่วงเมื่อถึงเวลานอน นอนหลับไม่สนิท นอนแล้วตื่นกลางดึก ตื่นแล้วกลับไปนอนไม่ได้อีก หรือแม้จะรู้สึกอ่อนเพลียเพียงใดก็ไม่สามารถนอนหลับได้ กลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่รบกวนจิตใจและกระบวนการทำงานของร่างกาย ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน และความสัมพันธ์กับผู้อื่น


อาการของโรคนอนไม่หลับ

  • นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ใช้เวลานานกว่าจะนอนได้
  • หลับยาก นอนดึก ตื่นสาย
  • นอนหลับ ๆ ตื่น ๆ รู้สึกตัว ตื่นขึ้นกลางดึก
  • ตื่นแล้วไม่สามารถนอนหลับต่อไปได้อีก
  • อ่อนล้า หมดแรง ไม่สดชื่นกระปรี้กระเปร่า
  • ง่วงนอนตลอดเวลาในตอนกลางวัน นอนไม่หลับในตอนกลางคืน
  • ร่างกายอ่อนเพลีย ต้องการการพักผ่อน แต่ก็ยังนอนไม่หลับ หลับยาก
  • ไม่มีสมาธิ ทำงานผิดพลาด ความจำไม่ดี

โดยปกติ คนเรามีชั่วโมงการนอนที่แตกต่างกันตามช่วงอายุ โดยจำนวนชั่วโมงที่เหมาะสมสำหรับการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอในแต่ละวัยเป็นดังนี้

  • เด็กแรกเกิด: 14-17 ชั่วโมงต่อวัน
  • อายุ 1 ปี: 14 ชั่วโมงต่อวัน
  • อายุ 2 ปี: 12-14 ชั่วโมงต่อวัน
  • อายุ 3-5 ปี: 10-13 ชั่วโมงต่อวัน
  • อายุ 6-13 ปี: 9-11 ชั่วโมงต่อวัน
  • อายุ 14-17 ปี: 8-10 ชั่วโมงต่อวัน
  • ผู้ใหญ่: 7-9 ชั่วโมงต่อวัน

ส่วนผู้สูงอายุจะมีชั่วโมงการนอนที่สั้นลง เพราะร่างกายสามารถผลิตสารที่ช่วยให้นอนหลับได้ลดน้อยลง

สาเหตุของโรคนอนไม่หลับ

การนอนไม่หลับเกิดจากหลายสาเหตุปัจจัย ดังนี้

ปัจจัยทางด้านร่างกาย

มีอาการเจ็บป่วยของโรคอยู่แล้ว หรือเจ็บปวดตามจุดและอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย จึงทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับแทรกซ้อน เช่น โรคกระเพาะอาหาร ไมเกรน ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ โรคมะเร็ง หรือโรคการหายใจผิดปกติขณะนอนหลับ (Sleep Related Breathing Disorders) หรือกรนขณะนอนหลับก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่สัมพันธ์ต่ออาการนอนไม่หลับ โดยผู้ที่เป็นโรคนี้จะหยุดหายใจเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ และตื่นขึ้นมาเรื่อย ๆในขณะนอนหลับ ความผิดปกติของกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดการเกร็งและการกระตุก อาจทำให้ผู้ป่วยตื่นขึ้นกลางดึก นอนหลับไม่สนิทหรือนอนไม่หลับอีกเลยได้เช่นกัน

อีกส่วนหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย ปกติเมื่อร่างกายเจริญเติบโตตามช่วงวัยต่าง ๆ และมีอายุเพิ่มมากขึ้น ความต้องการในการนอนหลับพักผ่อนจะลดน้อยลง เพราะร่างกายจะผลิตสารเซโรโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้นอนหลับได้ลดลง จึงมักพบปัญหาการนอนไม่หลับได้มากในช่วงวัยกลางคนเข้าสู่วัยชรา ในวัยชรา และผู้หญิงที่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์ ซึ่งการนอนไม่หลับเกิดจากฮอร์โมนและสภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง

ปัจจัยทางด้านจิตใจ

มีความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า หดหู่ ดีใจ หรือตื่นเต้นประหม่าเกิดเป็นความเครียด จนเกิดการเปลี่ยนแปลงของสารสื่อประสาทในร่างกาย ทำให้ไม่สามารถนอนหลับตามปกติได้

ปัจจัยภายนอก

มีสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมมารบกวนประสาทสัมผัสในขณะนอนหลับ เช่น เสียงดังรบกวน แสงที่สว่างจ้า และการรับรู้กลิ่นต่าง ๆ ที่มากจนรบกวนสภาวะผ่อนคลายก่อนการนอนหลับ และการเข้ารับการรักษาบางชนิดก็มีผลให้ผู้ป่วยเกิดความเจ็บปวดจนนอนไม่หลับ เช่น การทำเคมีบำบัด (Chemotherapy)

ปัจจัยอื่น ๆ

นอกจากสาเหตุดังกล่าวข้างต้น อาการนอนไม่หลับอาจเกิดจากลักษณะนิสัยเฉพาะตัว การนอนผิดเวลาไปจากเวลาปกติที่ร่างกายคุ้นเคย เช่น การทำงานเป็นกะ หรือการปรับตัวไม่ทันจากการเดินทางข้ามเขตเวลาโลก (Jet Lag) การกินอาหารที่มากเกินไปก่อนนอนทำให้นอนหลับไม่สบายตัว การดื่มและใช้สารเสพติด เช่น คาเฟอีนในกาแฟหรือชา นิโคตินในบุหรี่ และยาเสพติดต่าง ๆ ที่มีสารกดประสาททำให้นอนไม่หลับ รวมทั้งการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งแม้จะทำให้ผู้ดื่มง่วงนอนในตอนแรก แต่จะมีฤทธิ์กระตุ้นให้นอนหลับไม่สนิทหรือตื่นขึ้นมากลางดึกได้


การป้องกันโรคนอนไม่หลับ

การแก้ปัญหาอาการนอนไม่หลับ ควรพิจารณาตามความรุนแรงของอาการ หากมีอาการนอนไม่หลับไม่เกิน 1 สัปดาห์ หรือมีอาการเพียงบางช่วงที่มีปัจจัยต่าง ๆ มากระทบ และไม่ได้มีอาการอย่างต่อเนื่องเรื้อรัง ผู้มีอาการสามารถดูแลตนเองให้ผ่านพ้นภาวะนี้ได้โดย…

  • ปรับพฤติกรรมการนอน - เข้านอนให้เป็นเวลา ไม่งีบหลับในระหว่างวัน และนอนเมื่อง่วงนอน ไม่พยายามกดดันตัวเองเพื่อให้นอนหลับ เพราะจะเกิดผลข้างเคียงเป็นความวิตกกังวลและทำให้นอนหลับยากยิ่งขึ้น แต่ควรหากิจกรรมที่ผ่อนคลายทำก่อนนอน เช่น การอ่านหนังสือหรือการฟังเพลงเบา ๆ
  • เปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้มีความผ่อนคลาย - จัดห้องใหม่ให้อากาศถ่ายเทสะดวก กำจัดสิ่งรบกวนในบริเวณห้อง หรือย้ายที่พักไปสู่สภาพแวดล้อมที่สงบ สบาย และน่าอยู่อาศัย
  • รับประทานอาหารที่ถูกสุขอนามัยและมีประโยชน์ทางโภชนาการ - เพื่อสุขภาพที่ดี ปราศจากโรคภัยและความเจ็บป่วย งดรับประทานอาหารมื้อหนักก่อนเข้านอน รวมทั้งหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มและการใช้ยาที่มีสารกระตุ้นต่าง ๆ
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ - ตามความเหมาะสมของสภาพร่างกาย แต่ควรเว้นระยะการออกกำลังกายให้ห่างจากการเข้านอนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้นอนหลับยากมากยิ่งขึ้น
  • ลดความตึงเครียดจากการใช้ชีวิตประจำวัน - หลีกเลี่ยงความขัดแย้งอันเป็นที่มาของการเกิดความเครียด เปลี่ยนมุมมองใหม่ให้ชีวิต คิดในแง่บวก มองหาความสุขง่าย ๆ จากสิ่งรอบตัว เข้าใจชีวิต และรู้จักการปล่อยวาง

อาการนอนไม่หลับกับแพทย์แผนจีน

นอนไม่หลับในทางการแพทย์แผนจีนมองว่าสาเหตุคือการเชื่อมโยงระหว่างอิน-หยางสูญเสียไป (阴阳失交) คือ หยางแกร่งอินพร่อง หรือขาดความสมดุลนั่นเอง อาการทางคลินิกที่พบบ่อยคือหลับยาก ฝันเยอะ นอนหลับๆตื่นๆ หงุดหงิดง่าย ตื่นนอนไม่กะปรี้กะเปร่า ร่างกายอ่อนเพลียหรือเหนื่อยง่าย มีอาการผวาในขณะหลับ หรือสะดุ้งตื่นอยู่บ่อยครั้ง ขี้กังวลขี้ตกใจ การตัดสินใจช้าร่วมกับมีอาการหลงๆลืมๆ ซึ่งการรักษาจะเน้นปรับสมดุลอินหยาง เสริมม้ามเพิ่มเลือด ขับเสมหะของเสียที่คั่งค้าง บำรุงหัวใจ ปรับเลือดลมที่ติดขัดในตับและน้ำดี ระบายความร้อนที่อุดกลั้นในตับ เพิ่มสารน้ำในไต


ขอบคุณที่มา https://www.pobpad.com/นอนไม่หลับ